The boy and the heron (蒼鷺與少年) เป็นภาพยนตร์ของ Studio Ghibli (吉卜力工作室) ที่เป็นเจ้าเดียวกับที่ทำหนังดังอย่าง Spirited Away โดยผู้กำกับหนังเรื่องนี้คือ Hayao Miyazaki ที่ตั้งใจว่าจะรีไทร์ตัวเองมาหลายรอบแล้วก็ไม่รีไทร์ซะที แถมเจ้าตัวยังแจ้งว่าได้ไอเดียหนังใหม่อีก
ตัวอย่างหนัง
หนังเรื่องนี้เดิมทีผู้กำกับตั้งใจว่าจะไม่ปล่อยตัวอย่างหนังออกมา แต่จะปล่อยช่วงที่ฉายที่ญี่ปุ่น พอทำไปทำมา ปรากฏว่าตัวอย่างหนังมีให้ดูบนยูทูป สำหรับผู้อ่านที่ยังไม่เคยดูตัวอย่างหนัง ผู้อ่านสามารถดูได้ที่ด้านล่างนี้ครับ
การฉายภาพยนตร์
การฉายหนังเรื่องนี้ฉายที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกก่อน (ก็หนังเรื่องนี้มาจากบริษัทที่ญี่ปุ่น) หลังจากนั้นหนังเรื่องนี้เพิ่งเข้าโรงภาพยนตร์ที่ไต้หวันไปเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนที่ประเทศไทยนั้น หนังเรื่องนี้ยังไม่มีกำหนดฉาย
สำหรับเรา เราเพิ่งดูหนังเรื่องนี้ไปวันที่ 8 ตุลาคม โดยซื้อตั๋วหนังในโรงธรรมดาที่ราคา 240NT$ ร่วมกับซื้อป็อบคอร์นและน้ำดื่มไปที่ราคา 59NT$ (เทียบกับไทยแล้วถือว่าที่นี่ถูกไปเลย) เมื่อใกล้ถึงเวลาเริ่มฉาย เราเข้าไปดูในโรงตามที่กำหนด
เมื่อเวลาตามรอบเวลาปุ๊บ มีฉายตัวอย่างหนัง 2-3 เรื่องแล้วหนังเริ่มเลย ไม่มีการฉายโฆษณาแบบโรงภาพยนตร์ในไทยที่ฉายเกือบครึ่งชั่วโมง แถมในโรงนั้นคนมาดูกันเต็มโรงครับ หนังเรื่องนี้ยาว 124 นาที (ประมาณ 2 ชั่วโมงนิด ๆ) แล้วเราก็ดูจบ เลยเขียนถึงหนังเรื่องนี้หน่อย
หนัง The boy and the heron เรื่องนี้ได้เขียนคำโปรยเอาไว้ว่า
เด็กชายที่ชื่อ Mahito (牧真人)
โหยหายถึงแม่ของเขา
ผจญภัยในภาพระหว่างคนเป็นและคนตาย
ที่นั่นความตายจะสิ้นสุดลง
และชีวิตก็พบการเริ่มต้นใหม่หนังแฟนตาซีกึ่งอัตชีวประวัติ
แปลมาจากคำโปรยในเว็บไซต์ gkids.com
เกี่ยวกับชีวิต ความตาย และการสร้างสรรค์ เพื่อระลึกถึงมิตรภาพ
จากมันสมองของ Hayao Miyazaki
และเนื้อเรื่องอย่างคร่าว ๆ ของเรื่องนี้ก็เริ่มเมื่อปี 1943 (ช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2) แม่ตัวเอก Hisako (牧久子) ได้เสียชีวิตจากการโดนไฟไหม้ แล้วพ่อตัวเอกที่ชื่อ Shonichi (牧胜一) ที่เป็นเจ้าของโรงงานผลิตอาวุธได้แต่งงานใหม่กับน้องสาวของแม่ตัวเอกที่ชื่อ Natsuko (牧夏子) แล้วย้ายไปอาศัยอยู่ที่ต่างจังหวัด
ตัวเอกที่ชื่อ Mahito (牧真人) ต้องดิ้นรนในต่างจังหวัด ในขณะนี้กำลังเสียใจกับการเสียชีวิตของแม่ตัวเอก แล้วมีปัญหาด้านการปรับตัวกับที่โรงเรียนใหม่ และยังมีปัญหาความสัมพันธ์กับ Natsuko ที่ตั้งครรภ์อยู่ นอกจากนี้ตัวเอกเจอกับนกกระสาแล้วเรื่องก็เกิดขึ้น
รีวิวไว้นิดหน่อย
แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ก็เป็นหนังสไตล์จิบลิที่กำหนดให้ตัวเอกเป็นเด็กที่เป็นตัวละครหลักของเรื่อง คล้ายกับหนัง Spirited Away ที่กำหนดให้ตัวเอก Chihiro (荻野 千尋) หรืออีกชื่อว่า Sen (千) เป็นตัวหลักของเรื่อง
เนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้เริ่มต้นจากความสูญเสียก่อน ที่ตัวเอกเสียแม่จากการโดนไฟไหม้ในช่วงแรกของเรื่อง หลังจากนั้นตัวเอกย้ายมาอยู่ต่างจังหวัดที่ยังคงเสียใจกับการจากไปของแม่ตัวเอก มีปัญหาไม่ลงรอยกับ Natsuko และมีปัญหากับที่โรงเรียน แล้วเมื่อเจอนกกระสาเนื้อเรื่องเริ่มจะเข้าสู่โลกอีกโลกหนึ่ง
ตัวหนังมีจุดอ้างอิงมาจากชีวิตของผู้กำกับ (Hayao Miyazaki) เอง โดยชีวิตในวัยเด็กของผู้กำกับได้รับการอ้างอิงในตัวเอก พ่อของตัวเอกที่เป็นเจ้าของโรงงานอันนี้อ้างอิงมาจากพ่อตัวผู้กำกับ ส่วนแม่ที่จากไปอ้างอิงมาจากการจากไปของแม่ของผู้กำกับ
ตัวเนื้อเรื่องเองช่วงแรกรู้สึกอืดนิดหน่อย แต่เข้าใจได้ เพราะตัวหนังเรื่องนี้เองเริ่มทำความรู้จักกับตัวละคร และทำความรู้จักกับโลกที่สร้างขึ้นในเรื่องนั้นเอง แต่ช่วงหลังจากนั้นต่อมาถือว่าโอเค ทำได้ดี สนุกตามมาตรฐานของหนังจิบลิ
แถมเนื้อเรื่องมีสิ่งที่ผู้กำกับ Hayao Miyazaki ต้องการสื่อออกมา (หรือมี Message ซ่อนอยู่) ให้กับคนรุ่นหลังว่า
ถึงแม้ว่าเราจะไม่พอใจ โกรธต่อโลกที่แย่ลงไปทุกวัน อย่างไรก็ตามเราก็ต้องกลับไปเผชิญหน้ากับความเป็นจริง
ส่วนต่อจากนี้สปอยด์ ถ้าต้องการอ่านให้กดที่อ่านเพิ่มได้ครับ สำหรับคนที่ยังไม่ดูก็ข้ามไปก่อนได้เลย
อ่านเพิ่มเติมส่วนที่สปอยด์หนังเรื่องนี้
จุดนี้เองสัมพันธ์กับเรื่องที่ตัวเอก Mahito ที่เข้าไปสู่อีกโลกหนึ่งแล้วไปเจอกับทวดของตัวเอกที่กำลังต่อบล็อกขึ้นมาเพื่อให้โลกที่สร้างขึ้นมีความสมดุลเสมือนกับหินที่ลอยได้ก้อนใหญ่ที่มีพลังอยู่
ทวดกล่าวว่าต้องการให้ตัวเอกมาสานต่อสิ่งที่ทำอยู่ เนื่องจากตัวเอกเป็นสายเลือดเดียวกันกับทวด และตัวเอกปราศจากความมุ่งร้าย (malice) แต่ตัวเอกปฏิเสธ แล้วตัดสินใจกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง พร้อมกับโชว์แผลเป็นที่ศีรษะให้ดู
จุดนี้สัมพันธ์กับสิ่งที่สื่อออกมาของผู้กำกับ (หรือ Message) เลยว่าถึงแม้ว่าเราไม่พอใจ โกรธต่อโลกแค่ไหน เราจะหนีออกไปจากความเป็นจริงไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องกลับไปเผชิญหน้ากับความเป็นจริง
นอกจากข้อความที่ผู้กำกับจะสื่อออกมาแล้ว ยังมีตัวละครเด่นอีกตัวที่อาจจะสปอย ถ้ายังไม่ได้ดูให้กดข้ามไปก่อน
อ่านเพิ่มเติมส่วนที่อาจจะสปอยด์
หนังเรื่องนี้มีภูติตัวสีขาวเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่า Warawara (ตามภาพด้านล่าง) ที่เป็นตัวแทนของวิญญาณของผู้ที่ยังไม่เกิด ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาซักพักหนึ่งเพื่อที่จะเติบโตจนกระทั่งเป็นตัวเต็มวัย แล้วตัวนี้จะลอยขึ้นไปบนฟัาวนขึ้นไปเรื่อย ๆ เพื่อที่ดวงวิญญาณจะกลับไปเกิดใหม่
ตัว Warawara (ภาพจากเว็บ Studio Ghibli) จุดนี้จะคล้ายกับหนังจิบลิอย่างเรื่อง My Neighbor Totoro กับ Spirited Away ก็จะมีตัวเล็ก ๆ สีดำที่เรียกว่าภูติเขม่า (Susuwatari)
ส่วนหนัง Princess Monoke ก็จะมีเหล่าวิญญาณตัวจิ๋วที่ชื่อว่า โคดามะ (Kodama) มีลักษณะเด่นด้วยใบหน้าคล้ายหน้ากากสีขาว ดวงตากลมโต
ถัดจากเนื้อเรื่องแล้ว เรามาพูดถึงตัวงานวาด และเพลง ตัวงานภาพวาดในหนังเรื่องนี้ถือว่าดีตามสไลต์จิบลิ แสงสี การเคลื่อนไหวถือว่าโอเคครับ อีกอย่างผู้กำกับยังแจกภาพให้ดาวน์โหลดไปใช้ส่วนตัวได้ฟรีที่เว็บของ Studio Ghibli เอง
งานเพลงที่ได้รับการกำกับโดย Joe Hisaishi ก็ถือว่าดีเช่นเคย โดยเพลงประกอบของหนังเรื่องนี้มีชื่อว่า Spinning Globe (地球儀) ซึ่งเราแปะให้ฟังที่ใต้ย่อหน้านี้
สำหรับคะแนน ไม่มีให้ แต่สำหรับผู้อ่านแล้ว เราแนะนำให้ไปดูเรื่องนี้ครับ ถ้าหนังเรื่องนี้มีกำหนดฉายที่ไทยแล้ว ก็เตรียมรอดูที่ไทยได้ครับ