หลังจากที่ระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟท์อย่าง Windows 11 ได้รับการปล่อยให้อัพเดทไปตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งการปล่อยให้อัพเดทจะปล่อยผ่านทาง Windows Update เป็นระยะ แต่เราอัพเดทก่อนได้ผ่านทาง Windows 11 Installation Assistant แต่ในบทความนี้เราจะกล่าวถึงอุปกรณ์ที่ใช้อยู่ที่ใช้ซีพียู ARM เองนั่นก็คือ Surface Pro X
ในบทความนี้สามารถเอาไปใช้กับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ซีพียู ARM ได้นอกเหนือจาก Surface ครับ
ก่อนที่จะมาพูดถึงการใช้งาน เรามาพูดถึงตัววินโดว์ก่อน
ตอนที่ซื้อตัวแท็บเล็ต Surface Pro X ที่เป็นมือสองจะมีตัวแท็บเล็ตแล้ว (อันนี้รวมถึง Surface Pro 7 กับ 7+ ด้วย) ยังมีตัวอะแดปเตอร์ของไมโครซอฟท์เองที่เป็นสายเสียบเข้ากับปลั้กไฟที่หัวอีกฝั่งหนึ่งเป็นแม่เหล็กยึดกับช่องเสียบสายชาร์จไฟด้านขวา
อะแดปเตอร์ชาร์จไฟที่ติดมาให้ของไมโครซอฟท์ใช้ชาร์จไฟได้ดีเลยล่ะ เพียงแต่เวลาที่ใช้งานร่วมกันกับสาย USB-C ที่ต่อกับตัว USB Hub หรือ Docking Station ตามที่กล่าวในบทวามก่อนหน้า ทำให้สายยุ่งยากมากขึ้น เพราะต้องมีอีกสายที่ไว้เสียบเข้ากับอะแดปเตอร์ชาร์จไฟครับ แล้วจะทำอย่างไรดี?
อุปกรณ์ Surface Pro X ที่ใช้จะมีพอร์ต USB-C สองพอร์ตมาให้ในตัว ทีนี้ปัญหาที่เราพบคืออุปกรณ์ทั้งหลายที่เราใช้งานอยู่ในปัจจุบันยังใช้งานพอร์ต USB 3, พอร์ต VGA, HDMI หรือ 3.5mm หรืออุปกรณ์อ่านการ์ด SD Card ที่เราใช้งานกับแอพต่าง ๆ ได้แก่ทำงาน แต่งภาพ ทำงานเอกสารที่ใช้คีย์บอร์ดและเมาส์ภายนอกทำงานได้ดีกว่า
อย่างไรก็ดีอุปกรณ์ Surface Pro X ไม่มีสิ่งนี้มาให้ ดังนั้น เราต้องหาอุปกรณ์ USB Hub หรือ Docking Station
อุปกรณ์แบบนี้อนุญาตให้เราเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นได้ ก็มีตั้งแต่ 1-2 พอร์ต ไปจนถึง 10 กว่าพอร์ตเลย ทีนี้ของเราต้องการหลายพอร์ตหน่อย ดังนั้นแล้ว เราจำเป็นต้องซื้อตัว Docking Station มาใช้ครับ อุปกรณ์แบบนี้ในไทยมีตัวเลือกหลากหลายพอสมควร มีราคาที่สูง-ต่ำแตกต่างกันไป
วันก่อนซื้อ Surface Pro X มาใช้งานแทน iPad Pro ที่เคยเขียนบทความไปหลายวันก่อน แต่ตอนนั้นเราไม่ได้ซื้อลำโพง หูฟังเพื่อมาใช้งาน เราเลยลองค้นหาข้อมูลไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งไปเจอร้านที่ชื่อมั่นคงแก็ดเจ็ท Munkonggadget ที่เน้นอุปกรณ์เครื่องเสียง
บนระบบปฏิบัติการอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นแอนดรอยด์ วินโดว์ แมคโอเอส ไอโอเอส หรืออื่น ๆ สิ่งที่จำเป็นต่อการตัดสินใจซื้อเพื่อนำไปใช้งานคือแอพ (App) ครับ
แอพที่เราใช้กันบ่อย ๆ จะเป็นแอพโซเชียลอย่างเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม ไลน์ ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดมาใช้งานได้อย่างดีเกือบทุกระบบปฏิบัติการครับ ยกเว้นระบบปฏิบัติการวินโดว์นี่แหละครับ ที่ดาวน์โหลดมาใช้งานได้ก็จริง แต่เป็นเพียงแอพที่เปิดหน้าเว็บไซต์เพื่อใช้งานเท่านั้น ใช้งานได้ระดับหนึ่ง แต่มันไม่เหมือนใช้งานบนแอนดรอยด์หรือแมค หรือไอโอเอสครับ
ทีนี้เราเลยค้นหาแอพอื่นที่ทำงานทดแทนแอพที่ผลิตมาจากผู้จัดทำโซเชียลเอง เราค้นหาในไมโครซอฟท์สโตร์ก็พบว่ามีแอพหนึ่งที่ดูแล้วน่าใช้งาน ที่มีชื่อว่า Tweeten
PDF คือนามสกุลไฟล์เอกสารประเภทหนึ่งที่มีชื่อเต็มว่า Portable Document Format ที่พัฒนาโดยบริษัทอะโดบีที่พัฒนาโปรแกรมชื่อดังอย่าง Acrobat Reader ไฟล์ประเภทนี้เรานำไปอ่านในระบบปฏิบัติการต่าง ๆ ได้โดยที่ลักษณะตัวไฟล์สามารถแสดงผลอย่างไม่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม รวมถึงเก็บตัวอักษร รูปภาพ รูปลายเส้นในหน้าหนังสือที่มีตั้งแต่หนึ่งหน้าไปจนถึงหลายพันหน้าเป็นต้นไป
ต่อจากวันก่อนที่พูดถึง Surface Pro X ที่พูดถึงเรื่องแอพ คราวนี้มาพูดถึงเรือ่งการอัพเกรต SSD สำหรับ Surface Pro X ที่เป็นเครื่องแท็บเล็ตที่ผลิตโดยบริษัทไมโครซอฟท์ครับ ตอนแรกซื้อมือสองมาใช้งานได้ดีมาก แต่มีความจุที่จำกัดจำเขี่ยเหลือเกินเพราะมีขนาด 128GB เท่านั้น ส่วนจะไปซื้อขนาด 256GB หรือ 512GB นี่เห็นราคาแล้วราคาสูงไปหน่อย เลยคิดว่าซื้อมาอัพเกรตทีหลังจะดีกว่า
พอคิดถึงการอัพเกรต จะเกิดปัญหาว่าจะซื้อ SSD ไซส์เล็ก ๆ แบบนี้จะไปหาที่ไหน ก็ลองค้นหาในอินเตอร์เน็ตดูก็ไม่เห็นว่าจะมีขายในร้านในไทยแบบ SSD ชนิดอื่น เลยลองค้นหาในเว็บร้านค้าต่างประเทศก็พบใน ebay ที่มีคนเอา SSD ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาขาย เลยกดสั่ง SSD ขนาด 512GB ในเน็ต รอระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ของก็มาถึงบ้าน เปิดซองจะพบ SSD ที่มีขนาดจิ๋ววางอยู่บนโต๊ะ โดย SSD ประเภทนี้มีชื่อเรียกว่า M.2 2230 ครับ
เขียนต่อจากโพสก่อนที่พูดถึงเรื่องแอพที่ใช้ คราวนี้มาพูดถึงการพอร์ตแอพเพื่อนำมาใช้งานบน Surface Pro X ครับ ซึ่งที่เคยทำแล้วทำได้ก็คือคอมไพล์โปรแกรมที่ใช้ไลบรารี Electron ที่อนุญาตให้เราเขียนเว็บแล้วเอามารันบน Desktop ได้เลย
แต่ทีนี้ปัญหาของโปรแกรมที่ให้ดาวน์โหลดก็คือ ตัวโปรแกรมรองรับสถาปัตยกรรม x86 ที่ใช้ 32-bit หรือ 64-bit แต่ไม่ได้เปิดให้ดาวน์โหลดใช้งานสำหรับ ARM64 ยกเว้นบางโปรแกรมตัวอย่างเช่น Visual Studio Code, MS Team เป็นต้น
Surface Pro X เป็นแท็บเล็ตที่ผลิตโดยบริษัทไมโครซอฟท์ที่ใช้ซีพียู ARM ที่ผลิตโดย Qualcomm อย่าง Microsoft SQ1 (จริง ๆ มันมี SQ2 แต่ประสิทธิภาพไม่ต่างอย่างมีนัยสำคัญแบบ M1 เลยไม่กล่าวถึง) แท็บเล็ตนี้ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 แบบที่ใช้บนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลตามปกตินี่แหละ เพียงแต่ใช้ซีพียูคนละแบบแค่นั้น
ตอนเปิดหน้าเว็บ มันจะมีกรุ๊ปในเฟสบุ๊คอย่าง Surface Thailand ที่พบหลาย ๆ คนเข้ามาโพสเกี่ยวกับ Surface ตามปกติ แต่อย่างไรก็ดีจะพบว่ามีขายรุ่นนี้ทิ้งเยอะมากเพราะไม่ชินกับการใช้งาน หรือไม่ถูกใจ หรือมีปัญหาซอฟต์แวร์อะไรก็ตาม แต่ของเราศึกษามาก่อนแล้วว่ามีโปรแกรมที่เราใช้งานบนนี้ได้ และมีฟังก์ชันอย่าง Windows Subsystem for Linux (WSL) อยู่แล้ว
