อุปกรณ์ Surface Pro X ที่ใช้จะมีพอร์ต USB-C สองพอร์ตมาให้ในตัว ทีนี้ปัญหาที่เราพบคืออุปกรณ์ทั้งหลายที่เราใช้งานอยู่ในปัจจุบันยังใช้งานพอร์ต USB 3, พอร์ต VGA, HDMI หรือ 3.5mm หรืออุปกรณ์อ่านการ์ด SD Card ที่เราใช้งานกับแอพต่าง ๆ ได้แก่ทำงาน แต่งภาพ ทำงานเอกสารที่ใช้คีย์บอร์ดและเมาส์ภายนอกทำงานได้ดีกว่า
อย่างไรก็ดีอุปกรณ์ Surface Pro X ไม่มีสิ่งนี้มาให้ ดังนั้น เราต้องหาอุปกรณ์ USB Hub หรือ Docking Station
อุปกรณ์แบบนี้อนุญาตให้เราเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นได้ ก็มีตั้งแต่ 1-2 พอร์ต ไปจนถึง 10 กว่าพอร์ตเลย ทีนี้ของเราต้องการหลายพอร์ตหน่อย ดังนั้นแล้ว เราจำเป็นต้องซื้อตัว Docking Station มาใช้ครับ อุปกรณ์แบบนี้ในไทยมีตัวเลือกหลากหลายพอสมควร มีราคาที่สูง-ต่ำแตกต่างกันไป
อุปกรณ์ Feeltek Mega 16-in-1 USB-C Docking Station และข้อดี
จนกระทั่งมาเจออุปกรณ์หนึ่งในหน้าเว็บที่มีชื่อว่า Feeltek Mega 16-in-1 USB-C Docking Station อุปกรณ์ที่มีช่องเชื่อมต่อทั้งหมด 16 พอร์ต ที่ขายในเว็บใหญ่อย่าง JIB ที่มีคุณสมบัติตามหน้าเว็บดังนี้
- รองรับการต่อสองหน้าจอเพื่อ Extend หรือ Mirror
- รองรับการชาร์ตไฟ 100W ผ่านทางช่องเสีย USB-PD ซึงอนุญาตให้อุปกรณ์ที่รองรับใช้ได้
- มีตัวเสียบปลั้กไฟเพื่อให้กระแสไฟฟ้าอย่างเสถียร
- มีช่องเสียบสายแลน 1000 MBps และช่องเสียบหูฟัง 3.5mm
- ตัวเคสเป็นโลหะ และมีขาตั้งทำให้การกระจายความร้อนดีขึ้น และประหยัดพื้นที่
เราซื้อผ่านทางเว็บแล้วรอไม่กี่ชั่วโมง ของก็มาถึงบ้าน เปิดกล่องแล้วสภาพข้างในเป็นประมาณนี้
หยิบของออกมา จะมีตัว Docking Station, สายต่อปลั้กไฟที่มีหลายหัวให้เลือกตามมาตรฐานปลั้กไฟที่ใช้ (ซึ่งไม่ได้โชว์ในนี้) และสาย USB-C to USB-C
เราเอามาวางบนโต๊ะ นำตัว Docking Station เสียบสายต่อปลั้กไฟให้เรียบร้อย หลังจากนั้นเราเสียบสาย USB-C เพื่อเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ได้โดยนำสายเสียบ USB-C เสียบเข้าด้านหลังช่องที่สองจากบนสุด แล้วเสียบอีกข้างเข้ากับคอมพิวเตอร์
เมื่อเสียบเสร็จเรียบร้อย เราจะพบว่ามีไฟสีน้ำเงินปรากฏบนตัว Docking Station และมีเสียงแจ้งเตือนจากคอมพิวเตอร์ว่าเราเสียบกับอุปกรณ์นี้แล้วนะ หลังจากนั้น เราสามารถใช้งานช่องเสียบทั้งหมด 16 ช่องที่มีอย่างเพียงพอได้เรียบร้อยแล้วครับ
เมื่อเราเสียบกับ Docking Station แล้ว เราเสียบกับสาย VGA และสาย USB ต่าง ๆ พบว่าสามารถต่อออกภาพ รวมถึงต่อกับอุปกรณ์ได้ตามปกติ แถมสะดวกกว่าเดิม เพราะมีช่องเสียบที่เยอะมากกว่า USB-C Hub อันเก่าที่เคยใช้งานอยู่ และสามารถจัดระเบียบสายได้ดีกว่าเดิม เนื่องมาจากอุปกรณ์ต่าง ๆ เชื่อมผ่านตัว Docking Station อันนี้
จากข้อดีทั้งหมดที่เราเจออุปกรณ์ชิ้นนี้ทำให้เราใช้งานคอมพิวเตอร์ที่มีพอร์ต USB-C ได้ง่ายขึ้นมากกว่าเดิม
ข้อเสีย
อย่างไรก็ดีเมื่อมีข้อดีแล้ว ก็ต้องมีข้อเสียของอุปกรณ์นี้ ได้แก่
ข้อแรก เสียบอุปกรณ์นี้เข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่านทางช่อง USB-PD ที่ตัว Docking Station แล้วไม่ชาร์จไฟแฮะ อันนี้ประหลาดใจหน่อย ซึ่งปกติเวลาเสียบผ่านทางช่องนี้ไฟควรจะเข้าคอมพิวเตอร์ อ่า อันนี้เราต้องกลับไปอ่านคู่มืออีกครั้ง
อัพเดท:ช่องนี้ไว้ใช้สำหรับเสียบสาย USB-C เข้ากับ Adapter ต่อปลั้กไฟ เพื่อไว้ใช้สำหรับชาร์จแท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ครับ ถ้าไม่ได้เสียบช่องนี้ อุปกรณ์ที่ต่อจะไม่ได้ชาร์จไฟ ซึ่งตอนที่เขียนนั้น ผู้เขียนไม่ได้เสียบช่องนี้ไป ทำให้เวลาเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับตัว Docking Station อุปกรณ์จะไม่ได้รับการชาร์จไฟครับ
ต่อมา อุปกรณ์ชิ้นนี้มีขนาดใหญ่ และหนักระดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ USB-C Hub ชิ้นอื่น ทำให้เราไม่สะดวกต่อการพกพา ดังนั้นแล้วอุปกรณ์ Docking Station ชิ้นนี้เหมาะกับการวางไว้กับที่มากกว่า
และข้อสุดท้าย ราคาที่สูงไปหน่อยเมื่อเทียบกับ USB-C Hub ชิ้นอื่น ตอนซื้อมาราคาอยู่ที่ 4,500 กว่าบาท (อันนี้ถูกกว่าเราอื่นบน Shopee นะ ที่เราเห็นอยู่ที่ 6-7 พันบาท)
สรุป
จากการใช้อุปกรณ์ Docking Station ชิ้นนี้ เรามองว่ามันใช้งานดีมาก มีพอร์ตให้มาอย่างเพียงพอ แต่อุปกรณ์ชิ้นนี้มันไม่ได้เหมาะกับทุกคนครับ
ก่อนซื้อ ผู้อ่านควรมองความจำเป็นต่อการใช้งานก่อนว่าเราจะนำคอมพิวเตอร์/มือถือ/แท็บเล็ตที่มี USB-C ไปใช้งานกับอะไรก่อน ถ้าผู้อ่านมองว่าการมีอุปกรณ์แบบนี้จำเป็นต่อการใช้งานของผู้อ่านแล้ว เราแนะนำ Docking Station ตัวนี้เลยครับผม