สนาม Audax Single Rider BRM เป็นสนามที่ปั่นจักรยานโดยสามารถเลือกวันไปปั่นจักรยานวันไหนก็ได้ จะปั่นกี่คนก็ได้ ปั่นคนเดียว หรือปั่นเป็นสิบคนก็ได้ไม่ว่ากัน อย่างไรก็ตามจะต้องใช้จีพีเอส ร่วมกันกับแอป Strava เป็นส่งข้อมูลการปั่น ซึ่งมีเฉพาะฤดูกาลนี้เท่ากัน ฤดูกาล 2021 ก็จะไม่มีสนามแบบนี้อีก
เราเลยเลือกไปปั่นสนาม 200 สามร้อยยอด เป็นสนามที่เดินจัดโดยทีมงาน Audax บ้านหวัง ซึ่งตอนนีน้เปลี่ยนไปเป็นทีมงานปลาจวดคิรีฉันท์ ไซคลิ่ง (PAJOD) แทน แต่ช่วงนี้ดันติดเรื่องโควิดพอดีเลยทำให้จัดเป็น Single BRM ยิ่งเวลาได้เลยลงปั่นไปวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมาครับ จ่ายค่าสมัครไป 110 บาท
สนามนี้เป็นสนามระดับ Normal ตามระยะไต่ แต่การปั่นจริงยังกับสนาม Easy ครับ ไม่ได้ยากอะไรเท่าไรนัก (แต่ไม่ถึงกับปั่นถอยหลังจบแบบพี่สายชล)
การเดินทาง ขับรถไปจากกรุงเทพวันเสาร์แล้วไปถึงตอนกลางคืน พักที่โรงแรมที่เขาเต่าหนึ่งคืน (The Curve Residence) ต่อมาตื่นวันอาทิตย์เช้า วันที่ 18 เช็กเอ้าท์ ขับรถไปจุดสตาร์ทจากนั้นเริ่มปั่นที่อ่างเก็บน้ำที่เขาเต่าตอน 7.00 น
พอออกตัวปั่นจักรยานออกจากเขาเต่า ระหว่างทางเป็นเนินขึ้นลงเป้นระยะ อากาศช่วงนั้นเย็นตลอดทาง เลยปั่นไปตามทางไปเรื่อย ๆ ตามแรงของตัวเอง
หลังจากนั้นถึงจุดแรกคือเขากะโหลกเลยแวะระหว่างทางถ่ายรูปก่อน จากนั้นปั่นออกไปชายหาดของปราณบุรี ปั่นไประหว่างทางลมทะเลสวนเป็นระยะ จนกระทั่งถึงป้ายหาดสามร้อยยอดเลยแวะถ่ายอีกเช่นกัน ทำความเร็วไปเรื่อย ๆ 20 – 25 km/hr ตลอดทาง
ต่อมาปั่นออกจากหาดแถวนั้น แล้วปั่นไปตามทางเป็นระยะ จนกระทั่งเข้าอุทยานสามร้อยยอด เส้นทางในอุทยานสวยงามมาก ตอนปั่นมีเนินเป็นระยะ แถมวิวรอบทางมีหมอกลง ซึ่งผิดกับตอนปั่น Audax สนามอื่นที่มีแต่แดด ระหว่างทางเลยแวะถ่ายเป็นระยะ ช่วงนี้รถยังไม่เยอะ ทำความเร็วได้ดีประมาณ 20-25 km/hr ซึ่งปั่นได้สบายจนกระทั่งถึงจุดแรก CP1 คือถ้ำพระยานคร เวลาเหลือประมาณ 1 ชั่วโมง
เมื่อถึงบริเวณนั้นแล้ว ถ่ายรูป ซื้อน้ำกิน จากนั้นปั่นออกไปทางเดิมเพื่อปั่นไปยัง CP2
ระหว่างทางมีลมสวนเป็นระยะ มีร้านค้าตามทางอยู่บ้าง เลยแวะไปที่ร้านค้าเล็ก ๆ ร้านหนึ่ง ซื้อน้ำกิน นั่งพัก เจอเด็กเอาน้ำมันโซ่หยอดจักรยานแถวนั้นเลยขอยืมมาหยอดโซ่ จากนั้นปั่นออกไป
ถนนช่วงนี้วิวแทบไม่มีอะไร ถนนก็ขรุขระอีก เสียดายภาษีจัง แถมมีแต่ลมสวนตลอดทาง ปั่นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงตัวเมืองกุยบุรี นั่งพักกินข้าวเที่ยง กินน้ำ หลังจากนั้นปั่นไปจนถึงวัดกุยบุรี ปั่นออกทางด้านข้าง ช่วงนี้ฝนตกตลอดทาง มีน้ำท่วมเป็นระยะ แต่ไม่ได้กังวลอะไร เอาจักรยานผ่านไปตามปกติ
ปั่นไประหว่างทางเป็นถนนยางมะตอยธรรมดา มีทางก่อสร้างเป็นระยะ แต่ดีกว่าเมื่อก่อนทำให้ปั่นไปได้เรื่อย ๆ แต่เนินเริ่มถี่ขึ้น ทำความเร็วได้ช้าลง
จนกระทั่งถึงจุดที่ชันที่สุดคือก่อนจะถึงอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จุดที่ดูช้างและกระทิง ช่วงนี้รถแทบไม่มี แต่เจอจักรยานยนต์ชาวบ้านมาตอนแรกจะให้นั่งรถขึ้นไป แต่ตามกฏของ Audax ต้องช่วยเหลือตัวเองเลยรับความช่วยเหลือแบบนี้ไม่ได้ ก็ปั่นขึ้นเนินได้ช้าลง (ก็แหม รถมีสองเกียร์) แต่เจอช่วงที่ชันจริงก็เข็นนะ แต่ระยะทางที่เข็นก็ไม่กี่สิบเมตรก็ไม่เป็นไร
เมื่อถึงจุดที่ชันมากที่สุด แล้วไหลลงมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จุดที่ดูช้าง เลยแวะถ่ายเป็นจุด CP2 ซึ่งมีเวลาเหลือราวครึ่งชั่วโมง
ออกจากที่ดูช้าง ผ่านอุโมงค์ต้นไม้จากนั้นปั่นไหลลงเนินมาเรื่อย ๆ ช่วงนี้ทำความเร็วได้ดีมาก วิวระหว่างทางสวยมาก แถมอากาศเย็น ฝนตกตลอดทาง เลยแวะถ่ายเป็นระยะ จนกระทั่งลงมาถึงวัดกุยบุรี ช่วงนี้รถเยอะมากกว่าเดิม แต่ทำความเร็วได้ดี (25-28 km/hr) บางจัดที่ลงเนินชัน ๆ ทำความเร็วได้ดีมาก แต่ถนนดันไม่ค่อยดีเท่าไร รถสั่นสะเทือนตลอดทางจนมือชา – -”
เมื่อถึงตัววัดแล้ว เราไหลลงเนินผ่านตัวเมือง แล้วปั่นออกจากตัวเมืองกุยบุรี ไปตามทางเดินเพื่อที่จะกลับไปอุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด
เมื่อปั่นไปตามทาง ลมสวนแรงมากทำให้ปั่นได้ไม่เร็วมากนัก (17-20 km/hr) ก็ค่อย ๆ ปั่นไปตามแรงตัวเองจนกระทั่งถึงป้ายอุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด เลยแวะถ่ายเป็นจุด CP3 นี่แหละ เวลาก็ยังเหลือ 1 ชั่วโมง
ออกจากที่ทำการอุทยานแล้วปั่นไปตามทาง ช่วงนี้ก็ทำความเร็วได้บ้าง ไม่ได้บ้างก็ปั่นไปเรื่อย ๆ แถมแวะตามร้านชาวบ้านเป็นระยะเพื่อเติมน้ำและขนม แต่มีบางร้านจะแวะกินอาหารเย็นหน่อยก็ติดว่าต้องรอคิวเยอะเลยไม่กิน จากนั้นปั่นไปจนถึงชุมชนแถวปราณบุรีเลยแวะกินอาหารเย็นใน 7-11
กินอาหารเย็นเสร็จแล้วเลยปั่นไปตามทางที่เป็นถนนใหญ่ ช่วงนี้เป็นช่วงที่ปั่น 300 หัวหินตอนก่อนถึงจุด finish นะแหละ แต่ก็ทำความเร็วได้ระดับหนึ่ง จนกระทั่งถึงถนนใหญ่ที่มาตอนแรกที่มีสะพานข้ามแถวปากน้ำปราณบุรีซึ่งแสดงว่าจะถึงจุด finish เลยรีบไปปั่นจนถึงจุดสุดท้ายที่เขาเต่าเช่นเดิม
ช่วงสุดท้ายก่อนถึงที่ออกตัวช่วงนี้ทางไม่ดี เลยเข็นเป็นระยะ จนกระทั่งถึงจุด finish เลยแวะถ่ายรูป เวลาเหลือ 30 นาที ก็ถือว่าปั่นจบ เลยถ่ายรูปจุด finish แล้วส่งผลขึ้น Strava ให้ทีมงานดูครับ
โดยสรุป
สนาม 200 สามร้อยยอดสนามนี้โดยรวมแล้วพบว่าไม่ยาก เอารถอะไรไปก็ได้ ยางอ้วน ยางผอม ยางมีดอกหรือมีสลิคไปได้หมด แต่สภาพคนปั่นจบก็ต่างกัน ตอนที่ไปเอารถพับบรอมตันสองเกียร์ไปปั่นได้ก็ถือว่าโอเคเลยนะ สภาพก็เหนื่อยหน่อยนึง แต่ถ้าเป็นเสือหมอบน่าจะทำความเร็วได้มากกว่านี้ และจบสบายกว่านี้
อีกอย่างหนึ่งถ้าเป็นรอบ BRM ปกติก็จะมีคนปั่นเยอะขึ้น ทำให้ช่วงที่เปลี่ยวอย่างก่อนจะถึงอุทยานแห่งชาติกุยบุรีไม่เหงา มีบัดดี้ที่ดูได้ตลอดทาง 🙂
แก้ไข: แก้ปัญหาเรื่องรูปนิดนึงฮะ
